เกร็ดความรู้ถมดิน ข้อกฎหมายถมดิน

การถมดินไม่ใช่แค่การเอาดินมาเทให้เต็ม หากถมดินผิดวิธี เลือกดินผิดประเภท หรือคำนวณพลาด อาจนำมาซึ่งปัญหาบ้านทรุด น้ำท่วมขัง และงบประมาณบานปลาย นี่คือข้อมูลที่จะช่วยให้คุณคุยกับผู้รับเหมาได้รู้เรื่องและไม่โดนเอาเปรียบ

คำถามยอดฮิตคือ “ใช้ดินอะไรถมดีที่สุด?” คำตอบคือขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และการใช้งานพื้นที่นั้นๆ ครับ

  • ลักษณะ : เนื้อดินแน่น มีความเหนียว
  • เหมาะสำหรับ : การถมเพื่อยกระดับพื้นที่ สร้างบ้าน อาคาร
  • จุดเด่น : ราคาถูกที่สุด บดอัดแล้วแน่นดีมาก ทรุดตัวน้อย
  • ข้อควรระวัง : หากจะปลูกต้นไม้ควรลงหน้าดินทับอีกชั้น
  • ลักษณะ : ดินร่วน สีดำ มีแร่ธาตุสูง
  • เหมาะสำหรับ : ปูทับหน้าชั้นบนสุดประมาณ 10-20 ซม. สำหรับทำสวน ปลูกต้นไม้
  • ข้อควรระวัง : ราคาสูงมาก ไม่ควรใช้ถมเพื่อรับน้ำหนักโครงสร้าง เพราะเนื้อดินไม่แน่น
  • ลักษณะ : ดินแข็ง มีหินปน สีแดงหรือส้ม
  • เหมาะสำหรับ : ทำถนน ลานจอดรถ โกดัง
  • ข้อควรระวัง : แข็งมาก ขุดเจาะทำฐานรากยาก ไม่เหมาะกับการปลูกต้นไม้
  • ลักษณะ : แข็งโป๊ก คล้ายหิน บดอัดแล้วเหมือนพื้นคอนกรีต
  • เหมาะสำหรับ : ถมที่แปลงใหญ่ที่ต้องการความแข็งแรงสูง หรือทำถนน
  • เหมาะสำหรับ : ถมในโครงการจัดสรร เพราะยุบตัวเร็ว คืนตัวเร็ว (Settlement)
  • ข้อควรระวัง : ต้องมีกำแพงกันดินที่แข็งแรงมาก ไม่งั้นทรายจะไหลออกหมดเมื่อโดนน้ำ

หลายคนคำนวณแค่ กว้าง X ยาว X สูง แล้วสั่งดินมา ปรากฏว่า “ดินไม่พอ” เพราะลืมคิดเรื่อง “การยุบตัว” (Compaction Factor) ครับ

สมมติพื้นที่ของคุณเป็นตารางวา (ตร.ว.) ต้องการถมสูงเป็นเมตร (ม.) :

แต่เดี๋ยวก่อน ดินที่ขนมาบนรถคือ “ดินร่วน” (Loose Soil) เมื่อนำมาถมและบดอัด มันจะยุบตัวลง คุณต้องเผื่อค่าการยุบตัวประมาณ 20-30%

ที่ดิน 100 ตารางวา ต้องการถมสูง 1 เมตร

  • ปริมาณเนื้อดินที่ต้องการ : 100 X 4 X 1 = 400
  • ปริมาณที่ต้องสั่งจริง : 400 X 1.3 = 520

การคำนวณจำนวนรถบรรทุก (โดยประมาณ)

  • รถหกล้อเล็ก : จุได้ประมาณ 3-5 คิว (เหมาะกับซอยแคบ)
  • รถหกล้อใหญ่ : จุได้ประมาณ 8-10 คิว
  • รถสิบล้อ : จุได้ประมาณ 15-20 คิว (ราคาต่อคิวถูกที่สุด แต่ทำซอยถนนพังง่าย)
  • สูงกว่าถนนหน้าบ้าน : มาตรฐานควรอยู่ที่ 50-80 ซม. เผื่อถนนมีการยกตัวในอนาคตและกันน้ำท่วม
  • เทียบกับเพื่อนบ้าน : ไม่ควรสูงกว่าเพื่อนบ้านมากเกินไป เพราะน้ำจากบ้านเราจะไหลไปท่วมเขา อาจเกิดปัญหากฎหมายได้ ต้องทำรางระบายน้ำรอบตัว

การถมดินเสร็จแล้วสร้างเลย = บ้านทรุด พื้นแตก

  • ดีที่สุด : ถมทิ้งไว้ 6-12 เดือน (ให้ผ่านฝน 1 ฤดู) ฝนจะช่วยไล่ฟองอากาศและทำให้ดินแน่นโดยธรรมชาติ
  • ถ้ารีบ : ต้องใช้รถบดอัด (Compaction) อัดดินทีละชั้น (Layer) ทุกๆ 30-50 ซม. ห้ามเทรวดเดียวแล้วบดอัดทีเดียว เพราะข้างล่างจะกลวง
  1. พ.ร.บ. การขุดดินและถมดิน : หากพื้นที่ถมดินเกิน 2,000 ตารางเมตร (ประมาณ 1 ไร่ 1 งาน) ต้องขออนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น
  2. การระบายน้ำ : กฎหมายระบุว่า การถมดินต้องมีการระบายน้ำที่เพียงพอ และ ห้าม ทำให้น้ำไหลไปท่วมที่ดินข้างเคียง
  3. ช่วงเวลาขนส่ง : รถบรรทุกขนดินมักมีเวลาห้ามวิ่ง (เช่น ชั่วโมงเร่งด่วน) ต้องวางแผนให้ดีเพื่อไม่ให้งานสะดุด
  • ซื้อเป็นคัน : ระวังได้ดินไม่เต็มคิว (กระบะหลวม) หรือดินฟูเกินจริง
  • ซื้อเหมา (แนะนำ) : ตกลงราคารวมถมบดอัดให้ได้ระดับที่ต้องการ (วัดระดับด้วยกล้องสำรวจ) วิธีนี้ผู้รับเหมาต้องรับผิดชอบให้ดินเต็มตามระดับ ไม่ว่าเขาจะต้องวิ่งกี่เที่ยวก็ตาม

บางครั้งก็มีการแอบเอาเศษอิฐ เศษปูน ขยะก่อสร้าง มาถมชั้นล่างสุด ซึ่งจะทำให้ตอกเข็มไม่ลง หรือดินทรุดตัวเป็นโพรงในอนาคต ต้องตรวจสอบตอนเทดินช่วงแรกให้ดี

การถมดินที่ดีคือการลงทุนกับความมั่นคงของบ้าน ยอมจ่ายเพิ่มเพื่อ “การบดอัด” และ “ซื้อดินเผื่อการยุบตัว” จะคุ้มค่ากว่าการมาซ่อมบ้านทรุดภายหลังมหาศาลครับ

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

กดโทร เพชร 0814517717